วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรื่องนี้...มีวิธีแก้ :]




เรื่อง  .. สุนัข เหงา..
อย่างไรที่เรียกว่าโรคเหงา
        คุณคงไม่สามารถที่จะอยู่กับสุนัขได้ตลอดเวลา สุนัขของคุณชอบเห่า ปัสสาวะเรี่ยราด หรือชอบทำลายข้าวของบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นอาจจะแสดงว่าสุนัขของคุณเป็นโรคเหงาสุนัขเป็นสัตว์สังคม สุนัขป่าก็ยังอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง สุนัขบ้านจะถือว่าสมาชิกในครอบครัวคือฝูงของมันเช่นเดียวกัน สุนัขที่สนิทกับเจ้าของหรือสมาชิกในครอบครัวมากๆ จะเกิดอาการเครียดละเหงาเมื่อถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง โดยแสดงออกด้วยการเห่า ขุด กัดแทะ และพยายามทำลายข้าวของในบ้านคุณต้องเข้าใจว่าสุนัขของคุณไม่ได้มีเจตนาแกล้ง เพียงแต่มันรู้สึกไม่สบายใจเวลาที่ต้องอยู่เพียงลำพัง และพยายามที่จะหาทางไปหาเจ้าของให้ได้ เช่น การขุด กัดแทะประตู หรือทำไปเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เครียด เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ หรือรื้อข้าวของในบ้านมากัดเล่น
ลดอาการดีใจหรือเสียใจสุดเหวี่ยง เมื่อเวลาที่คุณเข้าหรือออกจากบ้าน
        เมื่อเจ้าของกลับมาบ้านหรือออกจากบ้านทุก ทั้งสองอย่างก่อให้เกิดความเครียดในตัวสุนัขอย่างมาก พฤติกรรมทำลายข้าวของจะเกิดทันทีที่เจ้าของก้าวเท้าออกจากบ้าน หรือก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน (โดยเฉพาะผู้ที่กลับบ้านตรงเวลา) การลดความเครียดของสุนัขในเรื่องนี้ทำโดยอย่าทำให้สุนัขตื่นเต้นเมื่อเวลาเจ้าของเข้าหรือออกจากบ้าน โดยทำทีไม่สนใจตัวสุนัขสัก 5 นาที ขณะที่คุณเตรียมเก็บเอกสารหรือข้าวของ เช่นกุญแจ เสื้อคลุม ฯลฯ ทำอย่างปกติเรียบๆ ก่อนออกอาจจะกล่าวคำว่าสวัสดีหรือบ๊ายบาย ด้วยน้ำเสียงปกติแล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างปกติธรรมดา อย่ากล่าวคำสั่งเสียกับสุนัข เช่น ดูแลบ้านให้ดีนะ อย่ากัดทำลายของ ฯลฯ เพราะจะไปกระตุ้นให้สุนัขเกิดความตื่นตัวก่อนที่เราจะออกจากบ้าน เพราะจะทำให้สุนัขรู้สึกว่าถูกทิ้งตามลำพังซึ่งสุนัขจะรู้สึกว่าแย่ การที่ทำทีไม่สนใจสุนัขเขาจะเข้าใจว่าคุณอยู่บ้านในที่ใดสักแห่งที่เขาไม่เห็น เวลากลับเข้าบ้านก็เช่นเดียวกัน ทำเป็นไม่เห็นสุนัขของคุณสัก 5 นาที ขณะเดียวกันคุณก็วางข้าวของของคุณตามปกติ อย่าพูดกับสุนัขยกเว้นดุให้เขาสงบลง สำหรับสุนัขที่ควบคุมยากให้ยืนหันหน้าเข้าหากำแพง อย่าทักทายสุนัขจนกว่าสุนัขจะสงบลง จึงกล่าวคำทักทาย เช่น ตบเบาๆ ที่ไหล่แล้วกล่าวคำว่าสวัสดี แต่อย่าทำให้สุนัขตื่นเต้นดีใจอีก

ข้อควรระวัง คือ ห้ามลงโทษสุนัขเมื่อกลับเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าสุนัขของคุณจะทำลายข้าวของเสียหายขนาดไหนก็ตาม เพราะสุนัขอาจจะคิดว่าคุณทำโทษเขาเพราะเขาอยู่เพียงลำพัง ซึ่งจะยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก ถ้าสุนัขเคยฝึกให้อยู่ในที่เฉพาะก็จะยิ่งง่าย แต่สุนัขบางตัวก็อาจยิ่งมีอาการตื่นกลัวเมื่อถูกจำกัดบริเวณหรืออยู่ในที่แคบ โดยเฉพาะในกรงของสุนัข กรณีนี้ไม่ควรให้สุนัขอยู่ในกรง]
เรื่อง  ..  ทำไงดี ? สุนัขทำลายข้าว ของ
ทำไมสุนัขจึงชอบรื้อทุกอย่างออกมากัดเล่น




จอมซนที่ชอบรื้อของประจำบ้าน  ความจริงแล้วการรื้อค้นของออกมากัดเล่นเป็นพฤติกรรมปกติของสุนัข  ปากของสุนัขเปรียบได้กับมือของคน  สุนัขใช้ปากในการสำรวจสิ่งของรอบตัว  ใช้ในการงับหรือคาบอาหาร  และใช้ปากเป็นเครื่องระบายความเซ็งและความเครียด  แต่ก็ยังดีกว่าการใช้ปากของมนุษย์ที่บางครั้งก็ก่อมหันตภัยให้กับคนรอบข้าง  สุนัขที่ใช้ปากมากเกินจำเป็นอาจจะต้องไปหาสัตวแพทย์เนื่องจากเหงือกอักเสบหรือฟันหักกร่อน  หรือเนื่องจากไปกัดเอาของที่เป็นพิษเข้า  บางตัวคงกลุ้มใจพิษเศรษฐกิจหนักขนาดจะกินยาตายเพราะดันไปคว้าเอายาลดความดัน  หรือยาแก้ปวดของเจ้าของมากัดเล่น  แถมไม่เล่นเปล่ายังกลืนลงท้องไปอีกไม่ทราบปริมาณ  เดือนร้อนทั้งเจ้าของและสัตวแพทย์ที่ต้องหาทางช่วยชีวิตสุนัขเอาไว้  ที่หนักข้อหน่อยก็คว้าเอายาฆ่าแมลงมาซดเล่น  ช่วยทันก็รอดช่วยไม่ทันก็ตาย  หรือบางทีช่วยทันแต่บังเอิญยาไปทำลายอวัยวะภายในเสียหายยับเยินก็ตายเหมือนกัน  ทางที่ดีอย่าเปิดวิทยุเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจให้สุนัขได้ยินบ่อย ๆ เดี๋ยวจะพาลช่วยเจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายโดยตัดช่องน้อยแต่พอตัว  เพ้อเจ้อมามากเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า 
เรามาดูกันก่อนว่าพฤติกรรมการกัดของเล่นเป็นเพราะอะไร
 การที่สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงของท่านชอบกัดแทะเป็นเพียงพฤติกรรมตามปกติ  เนื่องจากสุนัขใช้ปากแทนมือในการสำรวจสิ่งของและสิ่งแวดล้อม  ใช้ในการจับอาหารเข้าปาก  และใช้เพื่อระบายความเบื่อและความเครียด  บ่อยครั้งทีเดียวที่สุนัขใช้ปากเพื่อรักษาโรคของตัวสุนัขเอง  ที่เห็นได้เด่นชัดคือ  การแทะของใช้ในบ้านเพื่อระงับอาการปวดฟันและเหงือกอักเสบ  เช่นในรายลูกสุนัขและสุนัขอายุมาก  ซึ่งกรณีนี้มักจะกัดแทะจนกว่าจะหายปวด  ซึ่งกินเวลานานหลายวันหรือจนกว่าอาการจะหายไป  อีกกรณีคือ  สุนัขปวดท้องหรือปวดบริเวณลำคอซึ่งมักแสดงอาการกัดแทะเพียงระยะเวลาสั้น ๆ   การที่สุนัขทำลายข้าวของบางครั้งก็เป็นเนื่องจากสภาพทางอารมณ์อันเนื่องมาจากความเครียด  เช่น  จากความกลัว  หรือกังวลใจบางอย่าง  หรือเกิดเนื่องจากความพลั้งพลาดของเจ้าของเอง  เช่น  เจ้าของให้สุนัขกัดถุงเท้าเก่าหรือตุ๊กตาเก่าเล่น   สุนัขของท่านคงไม่สามารถแยกได้ว่าของที่เล่นอยู่เป็นของเก่าหรือใหม่เขาก็จะกัดเล่นไปหมด
เราจะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขชอบทำลายข้าวของหรือไม่  และจะหาสาเหตุได้อย่างไร
 บ่อยครั้งทีเดียวที่การกัดแทะของเล่นเริ่มจากการเล่นสนุกของสุนัข  และพฤติกรรมนี้ถูกเจ้าของละเลย  เนื่องจากของที่กัดเล่นอาจจะไม่มีค่า  แต่เมื่อไหร่ที่ของที่สุนัขนำมากัดเล่นเป็นของที่มีราคาพฤติกรรมนี้จะเกิดปัญหาตามมาทันที  ประการแรกท่านต้องพาสุนัขของท่านไปหาสัตวแพทย์ประจำเพื่อหาสาเหตุของโรค  สัตวแพทย์บางท่านอาจจะช่วยท่านเจ้าของได้ในกรณีที่การทำลายของเกิดเนื่องจากความเครียดจากความกลัวบางสิ่ง  หรือเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตัวเดียว  ความกลัวจะเห็นได้ชัดเมื่อมีการเปิดประตูหรือหน้าต่างสัตว์จะพยายามหนีออกไป  ส่วนความเหงาเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตัวเดียวสัตว์จะเรื่มกัดแทะเมื่ออยู่เพียงลำพัง  เนื่องจากมีการเปลี่ยนตารางเวลาของสัตว์ใหม่  เช่น   เจ้าของมีงานอื่นมาใหม่  หรือมีเด็กอ่อนคนใหม่เข้ามาในบ้าน  เป็นต้น

มีสาเหตุอื่นหรือไม่ในการที่สุนัขทำลายข้าวของ
 มีครับ  เช่น  สุนัขของท่านกินเศษผ้า  หรือของแปลกปลอมเข้าไป  เคยพบกระทั่งตะปูตอกสายไฟ  โซ่ทั้งเส้น  หิน  กระดูกก้อนโต  เม็ดทุเรียน ลูกกอล์ฟ  เข็ม  กระดิ่ง  ผ้าขนหนู  ฯลฯ  ผลก็คือต้องให้สัตวแพทย์ผ่าออก  เป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียวเพราะกว่าจะทราบบางทีก็สายเกินแก้
จะทำอย่างไรที่จะให้สุนัขเลิกทำลายข้าวของ
 เราต้องเข้าใจก่อนว่าสุนัขใช้ปากในการสำรวจของ  และเป็นเรื่องปกติ  วิธีง่ายที่สุดคือหาของให้สัตว์แทะเล่น  เช่น  กระดูกเทียม  ตุ๊กตาผ้าหรือพลาสติกที่ทำมาเพื่อให้สุนัขเล่น  ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ  ท่านเจ้าของอาจจะเลือกซื้อมาหลายอย่างสักหน่อยแล้วดูว่าสุนัขของท่านชอบของเล่นแบบไหนมากที่สุด  ท่านก็อาจจะซื้อมาหลายชิ้นหน่อยและวางไว้ในที่ ๆ สุนัขเห็นได้ง่าย  เมืองนอกมีของเล่นที่สามารถซ่อนขนมสุนัขไว้ข้างในได้  ซึ่งช่วยได้อย่างมาก  เพราะสุนัขจะสนุกกับการหาขนมที่ซ่อนอยู่ในของเล่นจนลืมทำลายข้าวของไปได้อย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่ง  บ้านเราไม่มีของเล่นแบบนั้น  ดัดแปลงเอาได้ครับโดยทาขนม  เช่น  เนยถั่ว  ชีส  ทุเรียนกวน (ถ้าสุนัขชอบ)  ฯลฯ
 ท่านสามารถฝึกสุนัขของท่านให้กัดแทะและไม่กัดแทะบางสิ่งได้  ขั้นแรก  ท่านอาจจะวางของเล่นสุนัข  9  อย่างปนกับรองเท้า  สั่งให้สุนัขไปคาบของเล่นของเขามา  (หรือคำสั่งใด ๆ ก็ได้ที่คุณต้องการสื่อกับสุนัข)  ถ้าสุนัขคาบได้ถูกต้องก็ให้รางวัล  เช่นของขบเคี้ยว  หรือการลูบหัวหรือตบเบา ๆ ที่ไหล่เพื่อแสดงความพอใจ  รวมทั้งใช้คำพูดที่อ่อนโยน  แต่ถ้าสุนัขของคุณคาบรองเท้ามาให้ตวาดหรือส่งเสียงดัง ๆ แสดงความไม่พอใจจนกว่าสุนัขจะวางของนั้นลง  ถ้าสุนัขมีพัฒนาการที่ถูกต้องคือคาบของได้ถูกต้องทุกครั้งคุณก็ค่อย ๆ ลดของเล่นเขาลงและเพิ่มปริมาณของใช้ส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้สุนัขกัด  ภายใน  2-3  สัปดาห์ถ้าท่านฝึกได้อย่างสม่ำเสมอสุนัขก็จะทราบว่าสิ่งของที่เขาควรจะกัดมีอะไรบ้าง 
 หากิจกรรมอื่นให้สุนัขของท่านทำจนเหนื่อยหรือยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำลายข้าวของ  เช่น  ให้วิ่งไล่คาบของมาให้  หรือเล่นซ่อนหากับสุนัขของท่าน  แต่ถ้าสุนัขของท่านไม่มีทีท่าว่าจะเลิกทำลายข้าวของ  อาจจะต้องใช้มาตรการขั้นสุดท้าย  เช่น  การวางกับดักไว้บริเวณที่สุนัขจะเข้าไปหาของที่ไม่ควรจะเล่น  เช่น  ใช้กระป๋องเปล่าใส่เหรียญวางขวางทางไว้เวลาล้มจะมีเสียงดังสุนัขจะตกใจวิ่งหนี  ใช้พริก  หรือพริกไทยโรยของที่ไม่ต้องการให้สุนัขกัด  (ต่างประเทศจะมีขายในรูปสเปรย์)  ฯลฯ  ถ้าท่านเห็นสุนัขกำลังกัดของให้ว่ากล่าวสุนัขด้วยเสียงที่แสดงความไม่พอใจทันที  อย่าไปตำหนิหลังจากนั้นเพราะสุนัขจะจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา  แต่ถ้าสุนัขทำดีท่านต้องให้รางวัลและพูดคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงความยินดี  ถ้าสุนัขของท่านชอบรื้อขยะให้วางกระป๋องเปล่าไว้บนถังขยะ  เพื่อว่าเวลาสุนัขมารื้อกระป๋องจะล้มเกิดเสียงดัง  สุนัขจะตกใจไม่กล้ามารื้อถังขยะอีก  คุณต้องคอยชี้แนะสุนัขและสัตว์เลี้ยงของคุณในการเรียนรู้ว่าสิ่งไหนควรกัดสิ่งไหนไม่ควร  ถ้าคุณไม่สามารถทำสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นได้หรือพยายามแล้วไม่สำเร็จ  ทางเดียวที่จะแก้ได้คือคุณต้องจำกัดบริเวณสุนัขและสัตว์เลี้ยงของคุณให้อยู่เฉพาะบริเวณที่สัตว์ไม่สามารถทำลายข้าวของได้  อย่าขังไว้ในห้องครัวหรือห้องน้ำที่มีตู้หรือชั้นวางของก็แล้วกัน  เพราะสุนัขก็จะรื้อหรือกัดแทะตู้เสียหายให้คุณได้จ่ายเงินอีก 

 เรื่อง  ..  เห็บ , หมัด ในสุนัข
"การบี้เห็บ"


ยังมีผู้เลี้ยงสุนัขมากมายหลายท่าน ที่เชื่อว่าเมื่อบี้เห็บแล้วจะทำให้เกิดเห็บมากมายเป็นทวีคูณ ท่านเหล่านั้นจึงสั่งสอนลูกหลานของตนต่อๆ กันมาว่า เมื่อเก็บเห็บออกจากตัวสุนัขแล้ว อย่า บี้เห็บเป็นอันขาด ประกอบกับเคยมีนักเขียนการ์ตูนชื่อดังท่านหนึ่ง เขียนการ์ตูนไว้ในหนังสือrพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง เมื่อประมาณ เกือบยี่สิบปีมาแล้ว ว่าการบี้เห็บตัวเมียที่ตัวเป่งนั้น จะทำให้เกิดลูกเห็บขึ้นเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อที่คลาดเคลื่อนไปจากความจริง ความเป็นจริงเป็นเช่นนี้ เห็บแข็งตัวเมียจะวางไข่เพียงครั้งเดียวเป็นจำนวนมากมาย อาจมากถึง 3,000-4,000 ฟอง และเมื่อวางไข่จนหมดท้องแล้ว เห็บตัวนั้นก็จะตายไป แต่ก่อนที่จะวางไข่ได้ มันจะต้องได้รับการผสมพันธุ์และต้องกินเลือดสุนัขจนตัวเป่งเต็มที่เสียก่อน ถ้ายังไม่ได้กินเลือดหรือกินยังไม่เพียงพอ ก็ยังไม่สามารถวางไข่ได้ เมื่อจะวางไข่ เห็บตัวเมียนั้นจะต้องหล่นจากตัวสัตว์ แล้วหาที่ปลอดภัย เช่นใต้ก้อนดินหรือก้อนหินบนพื้น หรืออาจเป็นร่องตามกำแพงหรือรอยแตกของไม้ใกล้พื้นดิน ในการวางไข่ จะใช้เวลาหลายวัน อาจนานหลายสัปดาห์ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม กระบวนการวางไข่ มีความสลับซับซ้อนซึ่งจะไม่ขออธิบายในที่นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ไข่ที่ถูกปล่อยออกมาแต่ละฟอง จะต้องถูกเคลือบไว้ด้วยสารคล้ายไขซึ่งกันน้ำไม่ให้ ระเหยออกจากไข่ไว้ชั้นหนึ่งก่อน หลังจากนั้น ไข่จะถูกเคลือบไว้ด้วยสารที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิด oxidation (=การทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ) ไว้อีกชั้นหนึ่ง ดังนั้นถ้าเห็บที่มีไข่เต็มท้องถูกบี้จนแตกเลือดทะลักออกมา และอาจมีไข่บางส่วนไม่ถูกทำลาย ก็มิได้หมายความว่าไข่เหล่านั้นจะฟักออกเป็นตัวอ่อนได้ ทั้งนี้เพราะไข่เหล่านั้น ไม่ได้ถูกเคลือบด้วยสารทั้ง 2 ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น ไข่เหล่านั้น จึงแห้งจากความร้อนของอากาศและฝ่อไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ใหญ่แนะนำเด็กๆ ว่าอย่าบี้เห็บ อาจจะมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่ก็ได้ เช่น เมื่อบี้เห็บแล้ว อาจจะทำให้พื้นเปื้อนเลือดที่ทะลักออกจากตัวเห็บ ทำให้พื้นเป็นรอยด่าง-ดวง ไม่น่าดู ทางเลือกอื่น ก็คือ เมื่อเก็บเห็บได้มากในแต่ละครั้ง ก็อาจลวกด้วยน้ำเดือด เห็บก็จะตายหมด หรืออาจเก็บใส่ขวดแอลกอฮอล์หรือน้ำมันก๊าด เห็บจะตายและถูกดองไว้ ไม่เน่าเปื่อย เมื่อเก็บเสร็จแล้ว ปิดฝาขวดไว้ให้แน่น และสามารถนำมาใส่เห็บในการเก็บครั้งต่อไปได้อีก ในบางบ้านที่เลี้ยงไก่ไว้ เราอาจโรยเห็บที่เก็บมาได้ ให้ไก่จิกกินก็ได้ เชื่อว่าไม่ทำให้ไก่เกิดการติดเชื้อจากเห็บได้



ขอขอบคุณและขออภัยสำหรับแหล่งที่มา 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น