เรื่อง .. สุนัข เหงา..
อย่างไรที่เรียกว่าโรคเหงา
คุณคงไม่สามารถที่จะอยู่กับสุนัขได้ตลอดเวลา สุนัขของคุณชอบเห่า ปัสสาวะเรี่ยราด
หรือชอบทำลายข้าวของบ้างหรือเปล่า
ถ้าเป็นอาจจะแสดงว่าสุนัขของคุณเป็นโรคเหงาสุนัขเป็นสัตว์สังคม
สุนัขป่าก็ยังอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง สุนัขบ้านจะถือว่าสมาชิกในครอบครัวคือฝูงของมันเช่นเดียวกัน
สุนัขที่สนิทกับเจ้าของหรือสมาชิกในครอบครัวมากๆ
จะเกิดอาการเครียดละเหงาเมื่อถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง โดยแสดงออกด้วยการเห่า ขุด
กัดแทะ และพยายามทำลายข้าวของในบ้านคุณต้องเข้าใจว่าสุนัขของคุณไม่ได้มีเจตนาแกล้ง
เพียงแต่มันรู้สึกไม่สบายใจเวลาที่ต้องอยู่เพียงลำพัง
และพยายามที่จะหาทางไปหาเจ้าของให้ได้ เช่น การขุด กัดแทะประตู
หรือทำไปเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เครียด เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ
หรือรื้อข้าวของในบ้านมากัดเล่น
ลดอาการดีใจหรือเสียใจสุดเหวี่ยง เมื่อเวลาที่คุณเข้าหรือออกจากบ้าน
เมื่อเจ้าของกลับมาบ้านหรือออกจากบ้านทุก
ทั้งสองอย่างก่อให้เกิดความเครียดในตัวสุนัขอย่างมาก
พฤติกรรมทำลายข้าวของจะเกิดทันทีที่เจ้าของก้าวเท้าออกจากบ้าน
หรือก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน (โดยเฉพาะผู้ที่กลับบ้านตรงเวลา)
การลดความเครียดของสุนัขในเรื่องนี้ทำโดยอย่าทำให้สุนัขตื่นเต้นเมื่อเวลาเจ้าของเข้าหรือออกจากบ้าน
โดยทำทีไม่สนใจตัวสุนัขสัก 5
นาที ขณะที่คุณเตรียมเก็บเอกสารหรือข้าวของ เช่นกุญแจ เสื้อคลุม ฯลฯ
ทำอย่างปกติเรียบๆ ก่อนออกอาจจะกล่าวคำว่าสวัสดีหรือบ๊ายบาย ด้วยน้ำเสียงปกติแล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างปกติธรรมดา
อย่ากล่าวคำสั่งเสียกับสุนัข เช่น ดูแลบ้านให้ดีนะ อย่ากัดทำลายของ ฯลฯ เพราะจะไปกระตุ้นให้สุนัขเกิดความตื่นตัวก่อนที่เราจะออกจากบ้าน
เพราะจะทำให้สุนัขรู้สึกว่าถูกทิ้งตามลำพังซึ่งสุนัขจะรู้สึกว่าแย่ การที่ทำทีไม่สนใจสุนัขเขาจะเข้าใจว่าคุณอยู่บ้านในที่ใดสักแห่งที่เขาไม่เห็น เวลากลับเข้าบ้านก็เช่นเดียวกัน
ทำเป็นไม่เห็นสุนัขของคุณสัก 5
นาที ขณะเดียวกันคุณก็วางข้าวของของคุณตามปกติ
อย่าพูดกับสุนัขยกเว้นดุให้เขาสงบลง สำหรับสุนัขที่ควบคุมยากให้ยืนหันหน้าเข้าหากำแพง
อย่าทักทายสุนัขจนกว่าสุนัขจะสงบลง จึงกล่าวคำทักทาย เช่น ตบเบาๆ ที่ไหล่แล้วกล่าวคำว่าสวัสดี
แต่อย่าทำให้สุนัขตื่นเต้นดีใจอีก
ข้อควรระวัง คือ ห้ามลงโทษสุนัขเมื่อกลับเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าสุนัขของคุณจะทำลายข้าวของเสียหายขนาดไหนก็ตาม เพราะสุนัขอาจจะคิดว่าคุณทำโทษเขาเพราะเขาอยู่เพียงลำพัง ซึ่งจะยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก ถ้าสุนัขเคยฝึกให้อยู่ในที่เฉพาะก็จะยิ่งง่าย แต่สุนัขบางตัวก็อาจยิ่งมีอาการตื่นกลัวเมื่อถูกจำกัดบริเวณหรืออยู่ในที่แคบ โดยเฉพาะในกรงของสุนัข กรณีนี้ไม่ควรให้สุนัขอยู่ในกรง]
ข้อควรระวัง คือ ห้ามลงโทษสุนัขเมื่อกลับเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าสุนัขของคุณจะทำลายข้าวของเสียหายขนาดไหนก็ตาม เพราะสุนัขอาจจะคิดว่าคุณทำโทษเขาเพราะเขาอยู่เพียงลำพัง ซึ่งจะยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก ถ้าสุนัขเคยฝึกให้อยู่ในที่เฉพาะก็จะยิ่งง่าย แต่สุนัขบางตัวก็อาจยิ่งมีอาการตื่นกลัวเมื่อถูกจำกัดบริเวณหรืออยู่ในที่แคบ โดยเฉพาะในกรงของสุนัข กรณีนี้ไม่ควรให้สุนัขอยู่ในกรง]
เรื่อง .. ทำไงดี
? สุนัขทำลายข้าว ของ
ทำไมสุนัขจึงชอบรื้อทุกอย่างออกมากัดเล่น
จอมซนที่ชอบรื้อของประจำบ้าน
ความจริงแล้วการรื้อค้นของออกมากัดเล่นเป็นพฤติกรรมปกติของสุนัข
ปากของสุนัขเปรียบได้กับมือของคน สุนัขใช้ปากในการสำรวจสิ่งของรอบตัว
ใช้ในการงับหรือคาบอาหาร และใช้ปากเป็นเครื่องระบายความเซ็งและความเครียด
แต่ก็ยังดีกว่าการใช้ปากของมนุษย์ที่บางครั้งก็ก่อมหันตภัยให้กับคนรอบข้าง
สุนัขที่ใช้ปากมากเกินจำเป็นอาจจะต้องไปหาสัตวแพทย์เนื่องจากเหงือกอักเสบหรือฟันหักกร่อน
หรือเนื่องจากไปกัดเอาของที่เป็นพิษเข้า บางตัวคงกลุ้มใจพิษเศรษฐกิจหนักขนาดจะกินยาตายเพราะดันไปคว้าเอายาลดความดัน
หรือยาแก้ปวดของเจ้าของมากัดเล่น แถมไม่เล่นเปล่ายังกลืนลงท้องไปอีกไม่ทราบปริมาณ
เดือนร้อนทั้งเจ้าของและสัตวแพทย์ที่ต้องหาทางช่วยชีวิตสุนัขเอาไว้
ที่หนักข้อหน่อยก็คว้าเอายาฆ่าแมลงมาซดเล่น ช่วยทันก็รอดช่วยไม่ทันก็ตาย หรือบางทีช่วยทันแต่บังเอิญยาไปทำลายอวัยวะภายในเสียหายยับเยินก็ตายเหมือนกัน
ทางที่ดีอย่าเปิดวิทยุเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจให้สุนัขได้ยินบ่อย ๆ เดี๋ยวจะพาลช่วยเจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายโดยตัดช่องน้อยแต่พอตัว
เพ้อเจ้อมามากเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า
เรามาดูกันก่อนว่าพฤติกรรมการกัดของเล่นเป็นเพราะอะไร
การที่สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงของท่านชอบกัดแทะเป็นเพียงพฤติกรรมตามปกติ เนื่องจากสุนัขใช้ปากแทนมือในการสำรวจสิ่งของและสิ่งแวดล้อม ใช้ในการจับอาหารเข้าปาก และใช้เพื่อระบายความเบื่อและความเครียด บ่อยครั้งทีเดียวที่สุนัขใช้ปากเพื่อรักษาโรคของตัวสุนัขเอง ที่เห็นได้เด่นชัดคือ การแทะของใช้ในบ้านเพื่อระงับอาการปวดฟันและเหงือกอักเสบ เช่นในรายลูกสุนัขและสุนัขอายุมาก ซึ่งกรณีนี้มักจะกัดแทะจนกว่าจะหายปวด ซึ่งกินเวลานานหลายวันหรือจนกว่าอาการจะหายไป อีกกรณีคือ สุนัขปวดท้องหรือปวดบริเวณลำคอซึ่งมักแสดงอาการกัดแทะเพียงระยะเวลาสั้น ๆ การที่สุนัขทำลายข้าวของบางครั้งก็เป็นเนื่องจากสภาพทางอารมณ์อันเนื่องมาจากความเครียด เช่น จากความกลัว หรือกังวลใจบางอย่าง หรือเกิดเนื่องจากความพลั้งพลาดของเจ้าของเอง เช่น เจ้าของให้สุนัขกัดถุงเท้าเก่าหรือตุ๊กตาเก่าเล่น สุนัขของท่านคงไม่สามารถแยกได้ว่าของที่เล่นอยู่เป็นของเก่าหรือใหม่เขาก็จะกัดเล่นไปหมด
การที่สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงของท่านชอบกัดแทะเป็นเพียงพฤติกรรมตามปกติ เนื่องจากสุนัขใช้ปากแทนมือในการสำรวจสิ่งของและสิ่งแวดล้อม ใช้ในการจับอาหารเข้าปาก และใช้เพื่อระบายความเบื่อและความเครียด บ่อยครั้งทีเดียวที่สุนัขใช้ปากเพื่อรักษาโรคของตัวสุนัขเอง ที่เห็นได้เด่นชัดคือ การแทะของใช้ในบ้านเพื่อระงับอาการปวดฟันและเหงือกอักเสบ เช่นในรายลูกสุนัขและสุนัขอายุมาก ซึ่งกรณีนี้มักจะกัดแทะจนกว่าจะหายปวด ซึ่งกินเวลานานหลายวันหรือจนกว่าอาการจะหายไป อีกกรณีคือ สุนัขปวดท้องหรือปวดบริเวณลำคอซึ่งมักแสดงอาการกัดแทะเพียงระยะเวลาสั้น ๆ การที่สุนัขทำลายข้าวของบางครั้งก็เป็นเนื่องจากสภาพทางอารมณ์อันเนื่องมาจากความเครียด เช่น จากความกลัว หรือกังวลใจบางอย่าง หรือเกิดเนื่องจากความพลั้งพลาดของเจ้าของเอง เช่น เจ้าของให้สุนัขกัดถุงเท้าเก่าหรือตุ๊กตาเก่าเล่น สุนัขของท่านคงไม่สามารถแยกได้ว่าของที่เล่นอยู่เป็นของเก่าหรือใหม่เขาก็จะกัดเล่นไปหมด
เราจะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขชอบทำลายข้าวของหรือไม่ และจะหาสาเหตุได้อย่างไร
บ่อยครั้งทีเดียวที่การกัดแทะของเล่นเริ่มจากการเล่นสนุกของสุนัข และพฤติกรรมนี้ถูกเจ้าของละเลย เนื่องจากของที่กัดเล่นอาจจะไม่มีค่า แต่เมื่อไหร่ที่ของที่สุนัขนำมากัดเล่นเป็นของที่มีราคาพฤติกรรมนี้จะเกิดปัญหาตามมาทันที ประการแรกท่านต้องพาสุนัขของท่านไปหาสัตวแพทย์ประจำเพื่อหาสาเหตุของโรค สัตวแพทย์บางท่านอาจจะช่วยท่านเจ้าของได้ในกรณีที่การทำลายของเกิดเนื่องจากความเครียดจากความกลัวบางสิ่ง หรือเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตัวเดียว ความกลัวจะเห็นได้ชัดเมื่อมีการเปิดประตูหรือหน้าต่างสัตว์จะพยายามหนีออกไป ส่วนความเหงาเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตัวเดียวสัตว์จะเรื่มกัดแทะเมื่ออยู่เพียงลำพัง เนื่องจากมีการเปลี่ยนตารางเวลาของสัตว์ใหม่ เช่น เจ้าของมีงานอื่นมาใหม่ หรือมีเด็กอ่อนคนใหม่เข้ามาในบ้าน เป็นต้น
มีสาเหตุอื่นหรือไม่ในการที่สุนัขทำลายข้าวของ
มีครับ เช่น สุนัขของท่านกินเศษผ้า หรือของแปลกปลอมเข้าไป เคยพบกระทั่งตะปูตอกสายไฟ โซ่ทั้งเส้น หิน กระดูกก้อนโต เม็ดทุเรียน ลูกกอล์ฟ เข็ม กระดิ่ง ผ้าขนหนู ฯลฯ ผลก็คือต้องให้สัตวแพทย์ผ่าออก เป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียวเพราะกว่าจะทราบบางทีก็สายเกินแก้
บ่อยครั้งทีเดียวที่การกัดแทะของเล่นเริ่มจากการเล่นสนุกของสุนัข และพฤติกรรมนี้ถูกเจ้าของละเลย เนื่องจากของที่กัดเล่นอาจจะไม่มีค่า แต่เมื่อไหร่ที่ของที่สุนัขนำมากัดเล่นเป็นของที่มีราคาพฤติกรรมนี้จะเกิดปัญหาตามมาทันที ประการแรกท่านต้องพาสุนัขของท่านไปหาสัตวแพทย์ประจำเพื่อหาสาเหตุของโรค สัตวแพทย์บางท่านอาจจะช่วยท่านเจ้าของได้ในกรณีที่การทำลายของเกิดเนื่องจากความเครียดจากความกลัวบางสิ่ง หรือเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตัวเดียว ความกลัวจะเห็นได้ชัดเมื่อมีการเปิดประตูหรือหน้าต่างสัตว์จะพยายามหนีออกไป ส่วนความเหงาเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตัวเดียวสัตว์จะเรื่มกัดแทะเมื่ออยู่เพียงลำพัง เนื่องจากมีการเปลี่ยนตารางเวลาของสัตว์ใหม่ เช่น เจ้าของมีงานอื่นมาใหม่ หรือมีเด็กอ่อนคนใหม่เข้ามาในบ้าน เป็นต้น
มีสาเหตุอื่นหรือไม่ในการที่สุนัขทำลายข้าวของ
มีครับ เช่น สุนัขของท่านกินเศษผ้า หรือของแปลกปลอมเข้าไป เคยพบกระทั่งตะปูตอกสายไฟ โซ่ทั้งเส้น หิน กระดูกก้อนโต เม็ดทุเรียน ลูกกอล์ฟ เข็ม กระดิ่ง ผ้าขนหนู ฯลฯ ผลก็คือต้องให้สัตวแพทย์ผ่าออก เป็นเรื่องใหญ่โตทีเดียวเพราะกว่าจะทราบบางทีก็สายเกินแก้
จะทำอย่างไรที่จะให้สุนัขเลิกทำลายข้าวของ
เราต้องเข้าใจก่อนว่าสุนัขใช้ปากในการสำรวจของ และเป็นเรื่องปกติ วิธีง่ายที่สุดคือหาของให้สัตว์แทะเล่น เช่น กระดูกเทียม ตุ๊กตาผ้าหรือพลาสติกที่ทำมาเพื่อให้สุนัขเล่น ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ ท่านเจ้าของอาจจะเลือกซื้อมาหลายอย่างสักหน่อยแล้วดูว่าสุนัขของท่านชอบของเล่นแบบไหนมากที่สุด ท่านก็อาจจะซื้อมาหลายชิ้นหน่อยและวางไว้ในที่ ๆ สุนัขเห็นได้ง่าย เมืองนอกมีของเล่นที่สามารถซ่อนขนมสุนัขไว้ข้างในได้ ซึ่งช่วยได้อย่างมาก เพราะสุนัขจะสนุกกับการหาขนมที่ซ่อนอยู่ในของเล่นจนลืมทำลายข้าวของไปได้อย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่ง บ้านเราไม่มีของเล่นแบบนั้น ดัดแปลงเอาได้ครับโดยทาขนม เช่น เนยถั่ว ชีส ทุเรียนกวน (ถ้าสุนัขชอบ) ฯลฯ
ท่านสามารถฝึกสุนัขของท่านให้กัดแทะและไม่กัดแทะบางสิ่งได้ ขั้นแรก ท่านอาจจะวางของเล่นสุนัข 9 อย่างปนกับรองเท้า สั่งให้สุนัขไปคาบของเล่นของเขามา (หรือคำสั่งใด ๆ ก็ได้ที่คุณต้องการสื่อกับสุนัข) ถ้าสุนัขคาบได้ถูกต้องก็ให้รางวัล เช่นของขบเคี้ยว หรือการลูบหัวหรือตบเบา ๆ ที่ไหล่เพื่อแสดงความพอใจ รวมทั้งใช้คำพูดที่อ่อนโยน แต่ถ้าสุนัขของคุณคาบรองเท้ามาให้ตวาดหรือส่งเสียงดัง ๆ แสดงความไม่พอใจจนกว่าสุนัขจะวางของนั้นลง ถ้าสุนัขมีพัฒนาการที่ถูกต้องคือคาบของได้ถูกต้องทุกครั้งคุณก็ค่อย ๆ ลดของเล่นเขาลงและเพิ่มปริมาณของใช้ส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้สุนัขกัด ภายใน 2-3 สัปดาห์ถ้าท่านฝึกได้อย่างสม่ำเสมอสุนัขก็จะทราบว่าสิ่งของที่เขาควรจะกัดมีอะไรบ้าง
หากิจกรรมอื่นให้สุนัขของท่านทำจนเหนื่อยหรือยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำลายข้าวของ เช่น ให้วิ่งไล่คาบของมาให้ หรือเล่นซ่อนหากับสุนัขของท่าน แต่ถ้าสุนัขของท่านไม่มีทีท่าว่าจะเลิกทำลายข้าวของ อาจจะต้องใช้มาตรการขั้นสุดท้าย เช่น การวางกับดักไว้บริเวณที่สุนัขจะเข้าไปหาของที่ไม่ควรจะเล่น เช่น ใช้กระป๋องเปล่าใส่เหรียญวางขวางทางไว้เวลาล้มจะมีเสียงดังสุนัขจะตกใจวิ่งหนี ใช้พริก หรือพริกไทยโรยของที่ไม่ต้องการให้สุนัขกัด (ต่างประเทศจะมีขายในรูปสเปรย์) ฯลฯ ถ้าท่านเห็นสุนัขกำลังกัดของให้ว่ากล่าวสุนัขด้วยเสียงที่แสดงความไม่พอใจทันที อย่าไปตำหนิหลังจากนั้นเพราะสุนัขจะจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา แต่ถ้าสุนัขทำดีท่านต้องให้รางวัลและพูดคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงความยินดี ถ้าสุนัขของท่านชอบรื้อขยะให้วางกระป๋องเปล่าไว้บนถังขยะ เพื่อว่าเวลาสุนัขมารื้อกระป๋องจะล้มเกิดเสียงดัง สุนัขจะตกใจไม่กล้ามารื้อถังขยะอีก คุณต้องคอยชี้แนะสุนัขและสัตว์เลี้ยงของคุณในการเรียนรู้ว่าสิ่งไหนควรกัดสิ่งไหนไม่ควร ถ้าคุณไม่สามารถทำสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นได้หรือพยายามแล้วไม่สำเร็จ ทางเดียวที่จะแก้ได้คือคุณต้องจำกัดบริเวณสุนัขและสัตว์เลี้ยงของคุณให้อยู่เฉพาะบริเวณที่สัตว์ไม่สามารถทำลายข้าวของได้ อย่าขังไว้ในห้องครัวหรือห้องน้ำที่มีตู้หรือชั้นวางของก็แล้วกัน เพราะสุนัขก็จะรื้อหรือกัดแทะตู้เสียหายให้คุณได้จ่ายเงินอีก
เราต้องเข้าใจก่อนว่าสุนัขใช้ปากในการสำรวจของ และเป็นเรื่องปกติ วิธีง่ายที่สุดคือหาของให้สัตว์แทะเล่น เช่น กระดูกเทียม ตุ๊กตาผ้าหรือพลาสติกที่ทำมาเพื่อให้สุนัขเล่น ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ ท่านเจ้าของอาจจะเลือกซื้อมาหลายอย่างสักหน่อยแล้วดูว่าสุนัขของท่านชอบของเล่นแบบไหนมากที่สุด ท่านก็อาจจะซื้อมาหลายชิ้นหน่อยและวางไว้ในที่ ๆ สุนัขเห็นได้ง่าย เมืองนอกมีของเล่นที่สามารถซ่อนขนมสุนัขไว้ข้างในได้ ซึ่งช่วยได้อย่างมาก เพราะสุนัขจะสนุกกับการหาขนมที่ซ่อนอยู่ในของเล่นจนลืมทำลายข้าวของไปได้อย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่ง บ้านเราไม่มีของเล่นแบบนั้น ดัดแปลงเอาได้ครับโดยทาขนม เช่น เนยถั่ว ชีส ทุเรียนกวน (ถ้าสุนัขชอบ) ฯลฯ
ท่านสามารถฝึกสุนัขของท่านให้กัดแทะและไม่กัดแทะบางสิ่งได้ ขั้นแรก ท่านอาจจะวางของเล่นสุนัข 9 อย่างปนกับรองเท้า สั่งให้สุนัขไปคาบของเล่นของเขามา (หรือคำสั่งใด ๆ ก็ได้ที่คุณต้องการสื่อกับสุนัข) ถ้าสุนัขคาบได้ถูกต้องก็ให้รางวัล เช่นของขบเคี้ยว หรือการลูบหัวหรือตบเบา ๆ ที่ไหล่เพื่อแสดงความพอใจ รวมทั้งใช้คำพูดที่อ่อนโยน แต่ถ้าสุนัขของคุณคาบรองเท้ามาให้ตวาดหรือส่งเสียงดัง ๆ แสดงความไม่พอใจจนกว่าสุนัขจะวางของนั้นลง ถ้าสุนัขมีพัฒนาการที่ถูกต้องคือคาบของได้ถูกต้องทุกครั้งคุณก็ค่อย ๆ ลดของเล่นเขาลงและเพิ่มปริมาณของใช้ส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้สุนัขกัด ภายใน 2-3 สัปดาห์ถ้าท่านฝึกได้อย่างสม่ำเสมอสุนัขก็จะทราบว่าสิ่งของที่เขาควรจะกัดมีอะไรบ้าง
หากิจกรรมอื่นให้สุนัขของท่านทำจนเหนื่อยหรือยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำลายข้าวของ เช่น ให้วิ่งไล่คาบของมาให้ หรือเล่นซ่อนหากับสุนัขของท่าน แต่ถ้าสุนัขของท่านไม่มีทีท่าว่าจะเลิกทำลายข้าวของ อาจจะต้องใช้มาตรการขั้นสุดท้าย เช่น การวางกับดักไว้บริเวณที่สุนัขจะเข้าไปหาของที่ไม่ควรจะเล่น เช่น ใช้กระป๋องเปล่าใส่เหรียญวางขวางทางไว้เวลาล้มจะมีเสียงดังสุนัขจะตกใจวิ่งหนี ใช้พริก หรือพริกไทยโรยของที่ไม่ต้องการให้สุนัขกัด (ต่างประเทศจะมีขายในรูปสเปรย์) ฯลฯ ถ้าท่านเห็นสุนัขกำลังกัดของให้ว่ากล่าวสุนัขด้วยเสียงที่แสดงความไม่พอใจทันที อย่าไปตำหนิหลังจากนั้นเพราะสุนัขจะจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา แต่ถ้าสุนัขทำดีท่านต้องให้รางวัลและพูดคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงความยินดี ถ้าสุนัขของท่านชอบรื้อขยะให้วางกระป๋องเปล่าไว้บนถังขยะ เพื่อว่าเวลาสุนัขมารื้อกระป๋องจะล้มเกิดเสียงดัง สุนัขจะตกใจไม่กล้ามารื้อถังขยะอีก คุณต้องคอยชี้แนะสุนัขและสัตว์เลี้ยงของคุณในการเรียนรู้ว่าสิ่งไหนควรกัดสิ่งไหนไม่ควร ถ้าคุณไม่สามารถทำสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นได้หรือพยายามแล้วไม่สำเร็จ ทางเดียวที่จะแก้ได้คือคุณต้องจำกัดบริเวณสุนัขและสัตว์เลี้ยงของคุณให้อยู่เฉพาะบริเวณที่สัตว์ไม่สามารถทำลายข้าวของได้ อย่าขังไว้ในห้องครัวหรือห้องน้ำที่มีตู้หรือชั้นวางของก็แล้วกัน เพราะสุนัขก็จะรื้อหรือกัดแทะตู้เสียหายให้คุณได้จ่ายเงินอีก
เรื่อง ..
เห็บ , หมัด ในสุนัข
"การบี้เห็บ"
ยังมีผู้เลี้ยงสุนัขมากมายหลายท่าน ที่เชื่อว่าเมื่อบี้เห็บแล้วจะทำให้เกิดเห็บมากมายเป็นทวีคูณ
ท่านเหล่านั้นจึงสั่งสอนลูกหลานของตนต่อๆ กันมาว่า
เมื่อเก็บเห็บออกจากตัวสุนัขแล้ว อย่า บี้เห็บเป็นอันขาด
ประกอบกับเคยมีนักเขียนการ์ตูนชื่อดังท่านหนึ่ง เขียนการ์ตูนไว้ในหนังสือrพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง เมื่อประมาณ
เกือบยี่สิบปีมาแล้ว ว่าการบี้เห็บตัวเมียที่ตัวเป่งนั้น
จะทำให้เกิดลูกเห็บขึ้นเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อที่คลาดเคลื่อนไปจากความจริง
ความเป็นจริงเป็นเช่นนี้ เห็บแข็งตัวเมียจะวางไข่เพียงครั้งเดียวเป็นจำนวนมากมาย
อาจมากถึง 3,000-4,000 ฟอง และเมื่อวางไข่จนหมดท้องแล้ว
เห็บตัวนั้นก็จะตายไป แต่ก่อนที่จะวางไข่ได้ มันจะต้องได้รับการผสมพันธุ์และต้องกินเลือดสุนัขจนตัวเป่งเต็มที่เสียก่อน
ถ้ายังไม่ได้กินเลือดหรือกินยังไม่เพียงพอ ก็ยังไม่สามารถวางไข่ได้ เมื่อจะวางไข่ เห็บตัวเมียนั้นจะต้องหล่นจากตัวสัตว์
แล้วหาที่ปลอดภัย เช่นใต้ก้อนดินหรือก้อนหินบนพื้น หรืออาจเป็นร่องตามกำแพงหรือรอยแตกของไม้ใกล้พื้นดิน
ในการวางไข่ จะใช้เวลาหลายวัน อาจนานหลายสัปดาห์ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม กระบวนการวางไข่ มีความสลับซับซ้อนซึ่งจะไม่ขออธิบายในที่นี้
แต่อย่างไรก็ตาม ไข่ที่ถูกปล่อยออกมาแต่ละฟอง
จะต้องถูกเคลือบไว้ด้วยสารคล้ายไขซึ่งกันน้ำไม่ให้ ระเหยออกจากไข่ไว้ชั้นหนึ่งก่อน
หลังจากนั้น ไข่จะถูกเคลือบไว้ด้วยสารที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิด oxidation (=การทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ)
ไว้อีกชั้นหนึ่ง ดังนั้นถ้าเห็บที่มีไข่เต็มท้องถูกบี้จนแตกเลือดทะลักออกมา และอาจมีไข่บางส่วนไม่ถูกทำลาย ก็มิได้หมายความว่าไข่เหล่านั้นจะฟักออกเป็นตัวอ่อนได้
ทั้งนี้เพราะไข่เหล่านั้น ไม่ได้ถูกเคลือบด้วยสารทั้ง 2 ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น ไข่เหล่านั้น จึงแห้งจากความร้อนของอากาศและฝ่อไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ใหญ่แนะนำเด็กๆ ว่าอย่าบี้เห็บ
อาจจะมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่ก็ได้ เช่น เมื่อบี้เห็บแล้ว อาจจะทำให้พื้นเปื้อนเลือดที่ทะลักออกจากตัวเห็บ
ทำให้พื้นเป็นรอยด่าง-ดวง ไม่น่าดู ทางเลือกอื่น ก็คือ
เมื่อเก็บเห็บได้มากในแต่ละครั้ง ก็อาจลวกด้วยน้ำเดือด เห็บก็จะตายหมด
หรืออาจเก็บใส่ขวดแอลกอฮอล์หรือน้ำมันก๊าด เห็บจะตายและถูกดองไว้ ไม่เน่าเปื่อย
เมื่อเก็บเสร็จแล้ว ปิดฝาขวดไว้ให้แน่น และสามารถนำมาใส่เห็บในการเก็บครั้งต่อไปได้อีก
ในบางบ้านที่เลี้ยงไก่ไว้ เราอาจโรยเห็บที่เก็บมาได้ ให้ไก่จิกกินก็ได้ เชื่อว่าไม่ทำให้ไก่เกิดการติดเชื้อจากเห็บได้
ขอขอบคุณและขออภัยสำหรับแหล่งที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น